การเล่นของหมาไม่ใช่กิจกรรมแก้เบื่อของหมาที่กินฟรีอยู่ฟรี และไม่มีการมีงานทำเท่านั้น แม้มุมมองของมนุษย์ การเล่นมักถูกมองว่าเป็นเรื่องของเด็ก เป็นกิจกรรมที่ควรจะหมดไปเมื่อเราก้าวเข้าสู่โลกของ “ผู้ใหญ่” ที่เต็มไปด้วยความจริงจัง แต่ความคิดนี้เป็นเพียงมุมมองที่แปลกเมื่อเทียบกับสัตว์อื่น เพราะในสำหรับสัตว์ทุกชนิดแล้ว การเล่นไม่ได้จำกัดอยู่แค่วัยเด็ก สัตว์โตเต็มวัยส่วนใหญ่ยังคงเล่นกันอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
หากมองในมุมของวิวัฒนาการ การเล่นเป็นกิจกรรมที่ “สิ้นเปลือง”มาก มันต้องใช้ทั้งพลังงานและเวลา ซึ่งสามารถนำไปใช้ทำกิจกรรมที่จำเป็นต่อการอยู่รอดอย่างการหาอาหารหรือการพักผ่อนได้ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือการตกเป็นเป้าของสัตว์ผู้ล่าอีกด้วย การที่พฤติกรรมนี้ยังคงอยู่รอดและพบเห็นได้ในสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ แม้จะต้องแลกมาด้วยต้นทุนที่สูงขนาดนี้ แสดงว่ามันต้องมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการอยู่รอดและไม่ใช่แค่กิจกรรมฆ่าเวลาอย่างแน่นอน
นิยามของการเล่น: การเล่นคืออะไรในทางวิทยาศาสตร์?
เพื่อจำแนกการเล่นจากลักษณะและรูปแบบของพฤติกรรมแทนการคาดเดาความรู้สึกภายในของสัตว์ กอร์ดอน เบอร์การ์ด (Gordon Burghardt) นักชีวจิตวิทยา ได้กำหนดเกณฑ์ 5 ข้อที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางเพื่อใช้ตัดสินว่าพฤติกรรมแบบไหนที่จัดได้ว่าคือ “การเล่น”
เกณฑ์ 5 ข้อสำหรับนิยามการเล่น:
- เป็นพฤติกรรมที่ไม่สมบูรณ์: พฤติกรรมนั้นไม่ได้มีประโยชน์ใช้สอยอย่างเต็มที่ในบริบทที่แสดงออก และไม่ได้ส่งผลต่อการอยู่รอดในทันที ตัวอย่างเช่น การกัดเล่นของลูกสุนัขจะไม่มีแรงกดรุนแรงเท่าการกัดเพื่อป้องกันตัวจริง ๆ
- เกิดขึ้นโดยสมัครใจ: เป็นพฤติกรรมที่ทำไปเพื่อความสุขของตัวเอง ไม่ได้ถูกบังคับหรือทำเพื่อรางวัลภายนอก ความสนุกของกิจกรรมนั้นคือรางวัลในตัวเอง
- มีโครงสร้างแตกต่างจากพฤติกรรมจริงจัง: พฤติกรรมนั้นจะมีรูปแบบที่แตกต่างไปจากพฤติกรรมเดียวกันในสถานการณ์จริงจัง อาจดูเกินจริง งุ่มง่าม หรือมีลำดับที่ผิดเพี้ยนไป เช่น ท่าวิ่งที่ดูไม่เป็นระเบียบและดูซุ่มซ่ามของหมาเวลาเล่น เทียบกับการจู่โจมอย่างนิ่ง รวดเร็ว และแม่นยำเมื่อตั้งใจจะโจมตีจริง ๆ
- มีการทำซ้ำ: พฤติกรรมนั้นถูกทำซ้ำ ๆ แต่ไม่ใช่ในรูปแบบที่ตายตัวเหมือนพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำที่เกิดจากความเครียด แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในแต่ละครั้ง
- เริ่มต้นในสภาวะผ่อนคลาย: พฤติกรรมจะเริ่มต้นเมื่อหมามีสุขภาพดี อิ่ม และปราศจากความเครียดหรือภัยคุกคาม การเล่นเป็นกิจกรรมที่ต้องปลอดภัยก่อนถึงจะเริ่มได้
หมาเล่นกันยังไง: ภาษาและกฎกติกาแห่งความสนุก
การเล่นของสุนัขไม่ใช่เรื่องไร้ระเบียบ แต่เป็นปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่มีโครงสร้างและกฎเกณฑ์ที่ซับซ้อน เพื่อให้การเล่นดำเนินต่อไปได้โดยไม่บานปลายเป็นความขัดแย้ง สุนัขจะใช้สัญญาณเฉพาะเพื่อสื่อสารเจตนาของตน
สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดสำหรับหมาคือการโค้งชวนเล่น (Play Bow) โดยสุนัขจะหมอบขาหน้าลงแต่ยกสะโพกสูง ท่านี้เปรียบเสมือน “สัญญาว่าจะเล่น” ซึ่งจะเปลี่ยนความหมายของการกระทำรุนแรงที่อาจตามมา เช่น การตะครุบหรือการกัด ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเกม หมามักใช้ท่านี้เพื่อเชิญชวนให้เล่น หรือใช้หลังจากเผลอเล่นแรงเกินไปเพื่อบอกว่า “เมื่อกี้เล่นนะ!”
ความยุติธรรมเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการเล่น สุนัขมีความสามารถในการทำให้เกมสมดุลผ่านพฤติกรรมที่เรียกว่า “การต่อให้” (Self-handicapping) และ “การสลับบทบาท” (Role-reversal) การต่อให้คือการที่หมาตัวใหญ่หรือแข็งแรงกว่าจงใจออมแรง เช่น กัดเบาลง หรือวิ่งช้าลง เพื่อให้คู่เล่นที่ตัวเล็กกว่าสามารถเล่นด้วยได้สนุก ส่วนการสลับบทบาทคือการที่หมาจะสลับกันเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เช่น จากที่ไล่เขา ก็เปลี่ยนเป็นชวนเขาไล่ จากฝ่ายกดก็ยอมเป็นฝ่ายนอนให้โดนกด
นอกจากนี้ สุนัขแต่ละตัวก็มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ประโยชน์ของการเล่น: ทำไมการเล่นถึงสำคัญกับหมา
งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้สรุปหน้าที่หลักของการเล่นของหมาไว้ 3 ประเด็นใหญ่ ๆ ซึ่งมักเกิดขึ้นพร้อมกันในระหว่างการเล่นหนึ่งครั้ง
1. ฝึกทักษะการเคลื่อนไหว
การเล่นเป็นเหมือนการซ้อมที่สำคัญสำหรับทักษะที่จำเป็นในชีวิตจริง การวิ่งไล่กันเป็นการฝึกทักษะการล่าเหยื่อ การปล้ำกันเป็นการฝึกทักษะการต่อสู้ป้องกันตัว สิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนรู้ที่จะ “ยับยั้งแรงกัด” ผ่านการเล่นกับพี่น้องในครอก ลูกสุนัขจะเรียนรู้ว่าควรกัดแรงแค่ไหนจึงจะไม่ทำให้เพื่อนเจ็บและหยุดเล่น ซึ่งเป็นทักษะทางสังคมที่จำเป็นอย่างยิ่งเมื่อโตขึ้น
2. ฝึกเพื่อรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน
ชีวิตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และการเล่นช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับเรื่องนี้ให้กับหมา สถานการณ์ที่วุ่นวายและคาดเดายากของการเล่น เช่น การถูกชนจนเสียหลัก หรือการถูกทำให้ตกใจ ช่วยสร้างสถานการณ์จำลองที่ปลอดภัยให้สุนัขได้เรียนรู้ที่จะตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด กระบวนการนี้ช่วยสร้างความยืดหยุ่นทางอารมณ์และทำให้สุนัขสามารถจัดการกับความเครียดในชีวิตจริงได้ดีขึ้น
3. ฝึกทักษะทางสังคม
หมาเป็นสัตว์สังคม ความสัมพันธ์จึงเป็นสิ่งจำเป็น การเล่นเป็นกลไกหลักในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์เหล่านี้ ทั้งระหว่างหมาด้วยกันและกับมนุษย์ การเล่นช่วยลดความขัดแย้งและสร้างความไว้วางใจ โดยเฉพาะในการเล่นระหว่างสุนัขกับมนุษย์ ซึ่งจะมีการหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) หรือ “ฮอร์โมนแห่งความรัก” ทั้งในคนและสุนัข ช่วยเสริมสร้างความผูกพันทางชีวเคมี การเล่นจึงเป็นเรื่องของการสร้างความสัมพันธ์ที่ไว้ใจกันได้มาก ๆ ด้วย
ท้ายที่สุดแล้ว แม้การเล่นของหมาจะดูเหมือนเป็นความสนุกของหมาที่ไม่มีการมีงานต้องทำ แต่จริง ๆ แล้วการเล่นคืองานสำคัญของพวกเขา ที่ส่งผลอย่างมากต่อการอยู่รอดในธรรมชาติ ในฐานะการฝึกฝนทักษะชีวิต ซ้อมรับมือกับโลกที่คาดเดาไม่ได้ และเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี