การเดินเล่นกับหมาอย่างสบายใจ เรียกคำเดียวกลับ หรือแม้กระทั่งการเดินแบบไม่ใช้สายจูง คือภาพการใช้ชีวิตที่ดีกับหมาสำหรับหลาย ๆ คน แต่กลับเป็นเรื่องยากสำหรับบ้านส่วนใหญ่
หลายครั้งที่เราเห็นการสอนให้หมาทำพฤติกรรมเหล่านี้ได้ด้วยการฝึกที่ซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วการฝึกทั้งเรียกกลับ เดินไม่กระชาก หรือแม้แต่การเดินไม่ต้องใช้สายจูงนั้น มีพื้นฐานที่ค่อนข้างเรียบง่ายร่วมกัน ซึ่งก็คือการฝึก Proximity หรือ ความใกล้ชิด
Proximity คืออะไร?
ความใกล้ชิด หรือ Proximity ไม่ใช่แค่การที่ตัวหมาอยู่ใกล้กับเราในทางกายภาพ ถ้าเราต้องการแค่นั้นการอุ้ม หรือจับไว้ก็พอแล้ว แต่หัวใจของการฝึการอยู่ใกล้คือ “ความต้องการของหมาที่ “อยาก” จะอยู่ใกล้เราด้วยตัวของเขาเอง มันคือการสร้าง “มายด์เซ็ต” ให้เขารู้สึกว่าการอยู่ในพื้นที่รอบๆ ตัวเราเป็นสิ่งที่คุ้มค่าและน่าพึงพอใจที่สุด แบบเดียวกันกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับไวไฟ (Wifi) นั่นแหละครับ
ทำไม Proximity ถึงสำคัญ ?
ถ้าหมาเลือกที่จะอยู่ใกล้ ๆ เราด้วยตัวเขาเองได้แล้วปัญหาพฤติกรรมหลายอย่างหายไปเองง่าย ๆ เพราะเรากำลังแก้ปัญหาที่ “ราก” ของมัน ซึ่งก็คือการตัดสินใจของตัวหมาเองครับ เช่น
- การเรียกแล้วมา (Recall): Proximity คือพื้นฐานที่แท้จริงของการเรียกแล้วมา หมาที่ “อยาก” อยู่ใกล้เราอยู่แล้ว จะมองว่าการกลับมาหาเราคือสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ การสั่งเรียกจึงเป็นแค่สัญญาณ ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อดึงความสนใจของเขากลับมา
- การเดินสายจูง (Loose-Lead Walking): ปัญหาดึงสายจูงจะหมดไป เพราะเขาจะ “เลือก” เดินให้ใกล้ชิดเราด้วยตัวเอง นั่นทำให้สายจูงไม่ตึง และไม่มีการกระชากเกิดขึ้น
- การปล่อยสายจูง (Off-lead): หนึ่งในจุดสูงสุดของการเดินกับหมา ถ้าถึงจุดที่ความใกล้ชิด และการปล่อยวาง ของหมาแข็งแรงสุด ๆ แล้ว การเดินด้วยกันโดยไม่ต้องใช้สายจูงก็จะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ (ในพื้นที่ที่เหมาะสม)
กับดักที่ทำลาย Proximity โดยไม่รู้ตัว
โดยธรรมชาติแล้ว โลกภายนอกนั้นน่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยสิ่งเร้าที่น่าสนใจกว่าเราอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นใหม่ๆ, หมาตัวอื่น, หรือเศษอาหารที่ตกอยู่ และแม้แต่เราเองก็อาจจะเผลอ “ตอกย้ำ” ว่าสิ่งเหล่านั้นน่าสนใจกว่าเราจริงๆ
หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ การโยนลูกบอลไปไกลๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า การทำแบบนี้เป็นการสอนเขาโดยไม่ตั้งใจว่า “ความสนุกและรางวัลมันอยู่ไกลๆ โน่นนะ ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ เจ้าของเลย!”
การให้รางวัลและควาใกล้ชิดตามระยะ
ลองนึกภาพว่ามีวงกลม 3 วงซ้อนกันโดยมีเราอยู่ตรงกลาง:
- ระยะใกล้ชิด (Close Proximity Zone): คือรัศมีประมาณ 1 เมตรรอบตัวเรา นี่คือระยะที่หมาควรจะชอบที่สุด ทั้งนั้นระหว่างวันแล้ว 80% ของรางวัลที่หมาได้ควรจะเกิดขึ้นในระยะ 1 เมตรจากเรา
- ระยะสำรวจใกล้ๆ (Medium Proximity Zone): คือระยะห่างไม่เกิน 10 เมตรจากตัวเรา ในโซนนี้ หมาสามารถสำรวจและเพลิดเพลินกับความเป็นหมาได้อย่างอิสระ แต่ก็ยังคงเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกับเราและยังตอบสนองต่อเราได้ หมาควรที่จะได้มีอิสระจากเราได้บ้างประมาณนึงแต่ควรจะชอบอยู่ใกล้ชิดเรามากกว่าอยู่ดี ดังนั้นไม่เกิน 20% ของรางวัลควรเกิดขึ้นในโซนนี้
- ระยะไร้รางวัล (Zero Value Zone): คือพื้นที่ที่ไกลออกไปจากนั้น นี่คือโซนอันตรายที่เราต้องพยายามหลีกเลี่ยงการสร้างคุณค่าใดๆ ทั้งสิ้น เพราะมันคือจุดที่สอนให้หมาเรียนรู้ที่จะวิ่งเตลิดและไม่สนใจเรา ดังนั้นระยะที่เกิน 10 เมตรจากเราหมาไม่ควรได้รางวัลใด ๆ เช่น ระวังการที่หมาหาอะไรทำเองนอกระยะ หรือแม้แต่การปาบอลก็ไม่ควรเกินระยะนี้
หลักการสร้าง Proximityภาคปฏิบัติ
หลักการที่ 1: สร้างคุณค่าในพื้นที่รอบตัว:
หัวใจหลักคือการทำให้โซนรอบตัวเรากลายเป็นที่ที่คุ้มค่าที่สุด เราทำสิ่งนี้ได้โดยการให้รางวัลทุกครั้งที่หมาเลือกที่จะเข้ามาใกล้เรา ไม่ว่าจะเป็นอาหาร คำชม หรือการลูบตัวเบาๆ เกมที่ให้เขาระหว่างขาเรา” (Middle) คือตัวอย่างที่ดีของการนำหลักการนี้มาใช้
หลักการที่ 2: ทำให้การ “กลับมาหาเรา” คุ้มค่าที่สุด:
เราต้องทำให้น้องหมารู้สึกว่า ไม่ว่าข้างนอกจะมีอะไรดีแค่ไหน แต่การกลับมาหาเรานั้นดีกว่าเสมอ แนวคิดนี้สามารถฝึกได้ผ่านการที่เราโยนอาหารเม็ดธรรมดาๆ ออกไปให้เขากิน แต่ให้รางวัลเป็นขนมพิเศษเมื่อเขาวิ่งกลับมาหาเรา
อีกกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพมาก ๆ คือการใช้สายจูงแบบยาว 10 เมตรขึ้นไป กับหมาในสถานที่ปลอดภัย ปล่อยให้หมาสำรวจพื้นที่ไปตามใจชอบโดยไม่ต้องเรียก รอ… และให้รางวัลเมื่อหมาเดินกลับมาหาเราเอง ทำซ้ำ ๆ ไม่กี่ครั้งหมาก็จะไม่ยอมออกห่างเราแล้ว หลักการสำคัญคืออย่าเรียกอย่ากระตุ้น ต้องปล่อยให้เขาคิดจะกลับมาเอง
หลักการที่ 3: เคลื่อนไหวให้คาดเดาไม่ได้ (Unpredictable Movement):
การเดินเป็นเส้นตรงอย่างเดียวอาจทำให้น้องหมาเบื่อและเริ่มมองหาสิ่งที่น่าสนใจกว่า แต่ถ้าเราเคลื่อนไหวอย่างคาดเดาไม่ได้ เช่น เปลี่ยนทิศทางกะทันหัน, เดินเร็วสลับช้า น้องหมาจะต้องคอยสังเกตและจดจ่อกับเรามากขึ้นเพื่อที่จะตามให้ทัน
หลักการที่ 4: ฝึกเพื่อเตรียมตัวก่อนเจอสถานการณ์จริง:
สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นสร้างคุณค่าให้กับความใกล้ชิด ในสภาพแวดล้อมที่ง่ายและไม่มีสิ่งรบกวนก่อน เช่น ในบ้านหรือในสวนหลังบ้าน เมื่อรากฐานแข็งแรงแล้ว เราจึงค่อยๆ นำทักษะนี้ไปใช้ในสถานที่ที่ท้าทายมากขึ้น
ยิ่งใกล้ยิ่งมีอิสระ
เมื่อเรากลายเป็นศูนย์กลางของความสนุกและความสุขสำหรับหมาของเรา เมื่อเขาเรียนรู้ว่าการอยู่ใกล้เราคือสิ่งที่ดีที่สุดในโลก ไม่ว่าจะมีสายจูงหรือไม่มีก็ตาม เมื่อนั้นแหละครับ…ที่เราจะได้สัมผัสกับอิสรภาพและความสุขในการใช้ชีวิตร่วมกับหมาของเราอย่างแท้จริง