Table of Contents

หนึ่งในความเชื่อที่พบบ่อยคือการรับหมาตัวใหม่เข้ามาจะช่วยแก้ปัญหาความเหงาหรือพฤติกรรมบางอย่างของหมาตัวเดิมได้ เช่น การคิดว่าให้เขาได้มี “เพื่อนเล่น” จะได้ไม่เบื่อ และพฤติกรรมที่ดีขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่แปลกที่หลายคนจะคิดไปทางนั้น

แต่บ่อยครั้งแทนที่ปัญหาจะลดลงสิ่งที่เจ้าของมักจะต้องเจอคือหมาที่มีปัญหาเพิ่มอีกหนึ่งตัวแทน พร้อมกับปัญหาที่ซับซ้อนขึ้น โดยเฉพาะปัญหาความเครียดและพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ตามมาได้หลายรูปแบบที่เกิดขึ้นได้แม้หมาจะไม่ทะเลาะกันด้วยซ้ำ


“ทำไม” เลี้ยงหมาหลายตัวมักจะเกิดปัญหา

ไม่ว่าจะเป็นการรับมามาเพิ่ม หรือการรับมาหลายตัวพร้อมกัน การมีหมาหลายตัวนั้นนำมาซึ่งปัญหาได้ค่อนข้างเยอะ เช่น

  • การเรียนรู้พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม: ลูกหมาเปรียบเสมือนฟองน้ำที่ซึมซับทุกอย่าง พวกเขาจะเรียนรู้จากหมาตัวที่อยู่มาก่อน หากหมาตัวเก่าของคุณมีพฤติกรรมขี้กังวลหรือเห่าบ่อย มีความเป็นไปได้สูงที่ลูกหมาตัวใหม่จะเรียนรู้และแสดงพฤติกรรมเหล่านั้นตามไปด้วย 
  • การแข่งขันเรื่องทรัพยากร: ความขัดแย้งมักเกิดขึ้นเมื่อมีการแข่งขันเพื่อเข้าถึงสิ่งที่พวกเขามองว่ามีค่า ซึ่งไม่ใช่หมายถึงแค่อาหารหรือของเล่น แต่ยังรวมถึงพื้นที่พักผ่อนที่สบายที่สุดใบ้าน หรือแม้แต่ความสนใจจากเจ้าของ 
  • พลังงานที่ไม่สมดุลและการก่อกวน: ลูกหมาที่เต็มไปด้วยพลังงานอาจเข้าไปก่อกวนหมาตัวเก่าที่ต้องการความสงบ หากหมาตัวเก่าเลือกที่จะหนี ลูกหมาอาจมองว่าการวิ่งไล่เป็นเกมที่สนุก ซึ่งจะยิ่งทำให้พฤติกรรมการก่อกวนนั้นเกิดขึ้นซ้ำๆ หรือหลายครั้งก็มีช่วงเวลาที่ตัวนึงอยาก อีกตัวไม่อยากเล่น สลับกวนกันไปมาจนไม่ได้นอนทั้งคู่
  • หมาอาจติดกันเองจนไม่สนใจเรา: หากการเล่นกับหมาอีกตัวในบ้านเป็นกิจกรรมที่สนุกและเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ก็ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะเลือกที่จะสนใจกันเองมากกว่า และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับหมาแต่ละตัวถูกลดระดับลง 

ด้วยเหตุผลหลัก ๆ เหล่านี้ทำให้สำหรับใครที่กำลังพิจารณาจะการเลี้ยงหมามากกว่าหนึ่งตัว ผมไม่แนะนำให้รับมาเพื่อหวังจะแก้ปัญหาที่มีอยู่แล้ว แต่ถ้าจะรับเพิ่มควรพิจารณาว่าพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดเพิ่มขึ้นมาหรือไม่ครับ โดยต่อไปนี้คือสิ่งที่ถ้าจะมีหลายตัวควรพร้อมที่จะทำ

4 กลยุทธ์สู่การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

เป้าหมายคือเราต้องการสร้างหมาที่สามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น และสอนทักษะที่จำเป็นให้พวกเขาเข้าใจว่าไม่จำเป็นต้องแข่งขันหรือขัดแย้งกัน การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะลดพฤติกรรมที่ไม่ต้องการ แต่ยังช่วยให้หมารู้สึกเครียดน้อยลงและมีความสุขมากขึ้นในสภาพแวดล้อมในบ้านที่ต้องอยู่ร่วมกัน

การจะไปถึงเป้าหมายนั้นต้องอาศัยแนวทางที่เป็นระบบ ซึ่งประกอบด้วย 4 กลยุทธ์หลักที่เราสามารถเริ่มต้นได้ทันที

กลยุทธ์ ที่ 1: จัดการพื้นที่ให้ดี

หัวใจสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติคือการให้เกียรติพื้นที่ส่วนตัวของหมาแต่ละตัว การที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาอาจสร้างความเครียดสะสมได้

สร้างพื้นที่ส่วนตัว: ใช้ประตูกั้นเด็ก คอกกั้น หรือกรง เพื่อสร้าง “พื้นที่ปลอดภัย” ให้หมาแต่ละตัวได้มีเวลาพักผ่อนตามลำพังโดยไม่มีใครรบกวน การให้พวกเขาได้มีเวลาแยกกัน จะช่วยลดระดับพลังงานทางอารมณ์ที่ตึงเครียดลงได้ 

ตัวอย่าง: ในช่วงเวลาที่เราไม่สามารถดูแลได้อย่างใกล้ชิด การให้หมาแต่ละตัวได้พักผ่อนในพื้นที่ของตัวเองพร้อมกับของเล่นแทะเล่น จะช่วยป้องกันการกระทบกระทั่งที่อาจเกิดขึ้นได้

สำหรับสัตว์เลี้ยงอื่น: สำหรับแมว การจัดพื้นที่แนวตั้ง เช่น ชั้นวางของหรือคอนโดแมว จะช่วยให้แมวมีทางหนีที่ปลอดภัยและรู้สึกมั่นคงเมื่อต้องการหลีกเลี่ยงหมา 

กลยุทธ์ที่ 2: จัดการทรัพยากรเพื่อลดความขัดแย้ง

เพื่อป้องกันการแข่งขัน ควรจัดการทรัพยากรสำคัญอย่างรอบคอบ

แยกพื้นที่กินอาหารและพักผ่อน: จัดให้หมากินอาหารและมีที่นอนประจำอยู่ในบริเวณที่แยกจากกัน การทำแบบนี้จะช่วยลดความรู้สึกว่าต้องแข่งขันหรือปกป้องของของตัวเอง 

ตัวอย่าง: ให้อาหารหมาคนละห้องหรือในกรงของตัวเอง หลังจากกินเสร็จให้เก็บชามอาหารทันที สำหรับของเล่นที่มีมูลค่าสูง เช่น กระดูกหรือของเล่นชิ้นโปรด ควรให้เล่นภายใต้การดูแลและเก็บให้เรียบร้อยเมื่อเล่นเสร็จ

กลยุทธ์ที่ 3: สร้างและให้รางวัลความสงบ

เป้าหมายระยะยาวคือการสอนให้ลูกหมาเรียนรู้ที่จะสงบเมื่ออยู่ใกล้หมาอีกตัว 

ให้รางวัลเมื่อสงบ: ทุกครั้งที่หมาทั้งสองอยู่ในห้องเดียวกันและลูกหมาเลือกที่จะนอนลงอย่างสงบแทนที่จะไปก่อกวนหมาอีกตัว ให้คุณให้รางวัลพฤติกรรมนั้น 

ตัวอย่าง: จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมความสงบ เมื่อคุณและหมาตัวเก่านั่งพักผ่อนดูทีวี ให้ของเล่นที่ต้องใช้เวลาแทะนานๆ หรือ Lick Mat แก่ลูกหมาในพื้นที่สงบของเขา การทำเช่นนี้จะช่วยให้ลูกหมาเชื่อมโยงการมีอยู่ของหมาตัวอื่นเข้ากับประสบการณ์ที่สงบและน่าพึงพอใจ 

กลยุทธ์ที่ 4: ให้เวลาคุณภาพแบบ 1 ต่อ 1

หมาเรียนรู้จากกันและกันง่ายกว่าจากเราแต่สิ่งที่เขาสอนกันเองมักจะไม่ใช่เรื่องดี

ทำกิจกรรมทีละตัว: จัดสรรเวลาสำหรับพาแต่ละตัวทำกิจกรรมสนุก ๆ ด้วยกันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง เพื่อเป็นเวลาคุณภาพของเรากับเขา

ตัวอย่าง:  แบ่งเวลาสำหรับการพาไปเดินเล่นทีละตัว เล่นเกมสร้าง Mindset ทีละตัว หรือแม้แต่การเล่นในสวนหลังบ้าน การทำเช่นนี้จะทำให้หมาแต่ละตัวให้ความสำคัญกับเราเราได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีอีกตัวมาดึงความสนใจไป

หลักการของการเลี้ยงหมาหลายตัวพร้อมกัน

การสร้างบ้านที่สงบสุขสำหรับหมาหลายตัวนั้นต้องอาศัยการจัดการอย่างรอบคอบ ไม่ใช่การปล่อยให้พวกเขาจัดการกันเอง และความเชื่อที่ว่าการรับหมาใหม่มาเพื่อแก้ปัญหาหมาเก่ามักจะทำให้สถานการณ์แย่ลงด้วยหลายสาเหตุ แต่หากจะเลี้ยงแล้วก็ต้องอาศัยการบริหารสภาพแวดล้อมให้ดี โดยเฉพาะในการการสร้างพื้นที่ส่วนตัวให้หมาแต่ละตัวได้พักผ่อนเพื่อลดความเครียด จัดการทรัพยากรอย่างอาหารและของเล่นเพื่อป้องกันการแข่งขัน และที่สำคัญคือการฝึกสอนพร้อมให้เขาเรียนรู้ที่จะสงบเมื่ออยู่ร่วมกับหมาตัวเก่า แนวทางเหล่านี้จะช่วยลดความขัดแย้งและสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ทำให้บ้านกลายเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและมีความสุขสำหรับหมาทุกตัว