ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับหมาเป็นสิ่งที่พิเศษและซับซ้อนมากกว่าแค่ “เจ้าของ” และ “สัตว์เลี้ยง” โดยความสัมพันธ์ระหว่างคนกับหมานั้นมีโครงสร้างทางจิตวิทยาที่ใกล้เคียงกับความผูกพันระหว่างพ่อแม่กับลูกมาก ๆ จนสามารถใช้ทฤษฎีความผูกพัน (Attachment Theory) เดียวกันกับความสัมพันธ์ระหว่างทารกกับพ่อแม่มาอธิบายได้เลย
โดยทฤษฎีตั้งต้นโดย John Bowlby ระบุว่าสายใยแห่งความผูกพันที่แท้จริงประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 4 มิติ ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมิน “คุณภาพ” ของความสัมพันธ์ที่เรามีกับหมา ว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ดีหรือเป็นความสัมพันธ์ที่เปราะบางซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาพฤติกรรมต่างๆ ได้
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ 4 มิติความสัมพันธ์ระหว่างคนกับหมากันครับ
มิติที่ 1: ความใกล้ชิด (Proximity Maintenance)
มิตินี้คือความต้องการของหมาที่จะอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าของ คือแรงขับเคลื่อนพื้นฐานที่ทำให้เขารู้สึกดีและปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ เรา โดยมิตินี้มีหน้าตาแตกต่างกันตามระดับความสัมพันธ์
❤️ ความสัมพันธ์ที่มั่นคง (Secure): ความใกล้ชิดที่ผ่อนคลาย
ในความสัมพันธ์ที่มั่นคง หมาจะแสดงความต้องการอยู่ใกล้เจ้าของในลักษณะที่สมดุลและผ่อนคลาย มันไม่ใช่ความต้องการที่เกิดจากความตื่นตระหนก แต่เป็นความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่ของเจ้าของ
- หมามีความสุขที่ได้นอนอยู่ใกล้ๆ เท้าของเราตอนทำงาน หรือเดินตามไปมาระหว่างห้องต่างๆ ในบ้าน “ได้อย่างสงบ”
- เขาอาจจะเข้ามาซบหรือวางหัวบนตักเพื่อขอการสัมผัสอย่างอ่อนโยน แต่เมื่อได้รับการตอบสนองแล้วก็จะกลับไปพักผ่อนต่ออย่างสบายใจ
- สำคัญที่สุดคือ หมายังสามารถที่จะอยู่ตามลำพังในห้องเดียวกันได้โดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสตัวเจ้าของตลอดเวลา แสดงให้เห็นถึงความสมดุลระหว่างความต้องการใกล้ชิดและความเป็นอิสระ
💔 ความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคง: ความใกล้ชิดที่เกิดจากความกังวลหรือความห่างเหิน
ในความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคง ความต้องการความใกล้ที่ชิดอาจกลายเป็นอยากจะใกล้แบบสุดโต่ง หรืออาจจะเป็นการหลีกเลี่ยงเจ้าของ ซึ่งเป็น 2 รูปแบบที่แตกต่างกัน
- ความใกล้ชิดแบบกังวล (Anxious): หมาจะติดเราเป็น “เงา” ในระดับที่ผิดปกติ มันจะแสดงพฤติกรรมเรียกร้องความใกล้ชิดอย่างต่อเนื่องและน่ากังวล เช่น ตามติดทุกฝีก้าว ร้องครางเมื่อเราลุกไปเข้าห้องน้ำ ใช้เท้าสะกิดหรือเห่าเรียกร้องความสนใจตลอดเวลา ไม่สามารถสงบลงได้เองถ้าไม่เห็นเจ้าของอยู่ในสายตา เป็นความใกล้ชิดที่ไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เป็นความกลัวการถูกทอดทิ้ง
- การหลีกเลี่ยง (Avoidant): ในอีกทางหนึ่ง หมาอาจจะจะแสดงความห่างเหินและไม่สบายใจกับความใกล้ชิด เช่น การเดินหนีเมื่อเราพยายามจะเข้าไปลูบ หลีกเลี่ยงการสบตาไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มต้นเข้ามาคลอเคลีย เกิดจากการที่หมาได้เรียนรู้ที่จะไม่คาดหวังความอบอุ่น และมองว่าการรักษาระยะห่างคือวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
มิติที่ 2: ที่พึ่งที่ปลอดภัย (Safe Haven)
หมามองเจ้าของเป็นที่พึ่งที่เขาสามารถเข้าไปหาเมื่อรู้สึกกลัว เครียด หรือเจอกับภัยคุกคาม การมีอยู่ของเจ้าของช่วยบรรเทาความกลัวและทำให้สุนัขรู้สึกปลอดภัยขึ้น
❤️ ความสัมพันธ์ที่มั่นคง: เจ้าของคือแหล่งพักพิงใจที่ไว้ใจได้
ในความสัมพันธ์มั่นคงหมาจะเชื่อมั่นว่าเขาสามารถปกป้องและปลอบโยนเขาได้ในยามที่ต้องการ
- เมื่อได้ยินเสียงดังที่น่ากลัว (เช่น เสียงฟ้าร้อง, พลุ) หรือเจอสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย หมาจะวิ่งตรงมาหาเราเป็นอันดับแรก
- หมาจะแสดงพฤติกรรมหาที่พึ่ง เช่น ซุกตัวอยู่ข้างๆ พยายามขึ้นมาบนตัก หรือจ้องหน้าเพื่อขอความมั่นใจ
- ที่สำคัญคือ เมื่อได้รับการปลอบโยนจากเจ้าของ (เช่น การลูบตัว, น้ำเสียงที่สงบ) หมาควรจะค่อยๆ สงบลงอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่าตัวตนของเรามีผลช่วยลดความเครียดของสุนัขได้จริง
💔 ความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคง (Secure): เจ้าของที่ไม่สามารถเป็นที่พึ่งได้
ในความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคง หมาจะไม่มองว่าเจ้าของคือแหล่งความปลอดภัยที่แท้จริง
- รูปแบบวิตกกังวล (Anxious): หมาสุนัขจะวิ่งหาเจ้าของเมื่อรู้สึกกลัว แต่ไม่สามารถสงบลงได้ แม้จะอยู่กับเจ้าของแล้ว สุนัขยังคงแสดงอาการเครียดอย่างรุนแรง เช่น ตัวสั่นไม่หยุด หอบ หรือร้องอย่างต่อเนื่อง เกิดจากการที่หมาแสวงหาความใกล้ชิดแต่ไม่ได้รับความรู้สึกปลอดภัยกลับมา
- รูปแบบหลีกเลี่ยง (Avoidant): เมื่อเผชิญกับความกลัว หมาจะไม่มองหาเจ้าของเลย สุนัขอาจจะตัวแข็งทื่อ พยายามวิ่งหนีไปซ่อนตามลำพัง หรือแสดงพฤติกรรม “ชัตดาวน์” (shutdown) คือนิ่งเฉยและไม่ตอบสนอง หมาได้เรียนรู้ว่าเจ้าของไม่ใช่แหล่งความช่วยเหลือที่พึ่งพาได้ หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุด เจ้าของอาจเป็นต้นเหตุของความกลัวนั้นเอง (เช่น จากการโดนเจ้าของทำร้าย)
มิติที่ 3: พื้นที่ปลอดภัยเพื่อการสำรวจ (Secure Base)
เจ้าของเปรียบเสมือน “ฐานทัพ” ที่ให้ความมั่นใจกับเขาในการออกไปสำรวจโลกภายนอกเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
❤️ ความสัมพันธ์ที่มั่นคง (Secure): มีเราอยู่ เขากล้าเผชิญโลก
การมีเจ้าของอยู่ใกล้ๆ ทำให้หมารู้สึกกล้าหาญและมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพากับโลกภายนอก
- ในสถานที่ใหม่ๆ หมาจะออกไปสำรวจสิ่งต่างๆ อย่างกระตือรือร้น แต่จะคอยหันกลับมามองหาเจ้าของเป็นระยะๆ หรือวิ่งกลับมาหาเราเพื่อความมั่นใจ ก่อนจะสำรวจต่อ
- หมาจะกล้าเล่นของเล่นหรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าอย่างเป็นมิตรมากขึ้นเมื่อเจ้าของอยู่ด้วย
- ความมั่นใจนี้ยังส่งผลให้สุนัขมีความพยายามในการแก้ปัญหามากขึ้น เช่น การพยายามเอาขนมออกจากของเล่นฝึกสมอง
💔 ความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคง: ฐานทัพที่ไม่มั่นคง
ความไม่มั่นคงในความสัมพันธ์จะบั่นทอนความกล้าในการสำรวจและเรียนรู้ของหมา
- รูปแบบวิตกกังวล (Anxious): หมาจะติดและกังวลกับการเฝ้าดูเจ้าของมากเกินไปจนไม่กล้าออกไปไหน เช่น ในสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ หมาจะเกาะติดอยู่ข้างเจ้าของ ไม่สนใจสำรวจหรือเล่น จะหมกมุ่นอยู่กับความกลัวว่าเจ้าของจะหายไป จนไม่มีสมาธิจะไปสำรวจเรียนรู้สิ่งรอบตัว
- รูปแบบหลีกเลี่ยง (Avoidant): หมาอาจจะออกไปสำรวจ แต่ทำไปโดยไม่แคร์เจ้าของ เช่น เดินสำรวจไปเรื่อยๆ เหมือนกับว่าเจ้าของไม่ได้อยู่ตรงนั้น ไม่หันกลับมามองหา และการมีอยู่ของเจ้าของก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เขา เป็นความเป็นอิสระที่เกิดจากความห่างเหิน ไม่ใช่ความมั่นใจ
มิติที่ 4: ความกังวลเมื่อต้องแยกกัน (Separation Distress)
ความวิตกกังวล การประท้วง หรือความทุกข์ใจเมื่อต้องแยกจากบุคคลที่ผูกพันด้วยโดยไม่สมัครใจ ปฏิกิริยานี้เป็นกลไกการปรับตัวที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตามหากัน
❤️ ความสัมพันธ์ที่มั่นคง (Secure): คิดถึง แต่เชื่อว่าจะกลับมา
ความกังวลใจในระดับที่เหมาะสมเป็นสัญญาณของความสัมพันธ์ที่ดี
- ตอนแยกกัน: หมาอาจแสดงอาการคิดถึงเล็กน้อย เช่น เดินไปรอที่ประตู หรือครางเบาๆ ในช่วงแรกที่เรากำลังออกไป
- ตอนกลับมาเจอ: หมาจะแสดงความดีใจอย่างชัดเจนและกระตือรือร้นเมื่อเรากลับมา เขาจะเข้ามาทักทาย ขอการสัมผัส, และหลังจากได้ทักทายแล้ว เขาจะสามารถสงบลงและกลับสู่ภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว
💔 ความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคง: การแยกจากที่เจ็บปวดและการกลับมาที่ไม่ช่วยอะไร
- รูปแบบวิตกกังวล (Anxious): สุนัขจะแสดงความทุกข์ทรมานอย่างรุนแรงเมื่อต้องอยู่ลำพัง ซึ่งมักเป็นสาเหตุของ Separation Anxiety โดยมี พฤติกรรมที่สังเกตได้ เช่น ทำลายข้าวของ เห่าหอนไม่หยุด หรือแม้แต่ทำร้ายตัวเองเมื่อถูกทิ้งไว้ลำพัง
เมื่อเจ้าของกลับมา หมาจะแสดงพฤติกรรมแบบสองจิตสองใจในการเข้าหา เช่น เข้าหาอย่างรุนแรง แต่กลับแสดงสัญญาณความเครียดและไม่สามารถสงบลงได้ง่าย ๆ การกลับมาของเจ้าของไม่เพียงพอที่จะทำให้มันรู้สึกปลอดภัย - รูปแบบหลีกเลี่ยง (Avoidant): พฤติกรรมที่บ่งชี้ชัดเจนที่สุดคือตอนที่เจ้าของกลับมา โดย เมื่อเจ้าของกลับเข้าบ้าน หมาจะเพิกเฉยหรือหลีกเลี่ยงอย่างชัดเจน เขาอาจจะหันหน้าหนี เดินเลี่ยงไปทางอื่น หรือทำเป็นสนใจดมพื้นแทนที่จะเข้ามาทักทาย หมาได้เรียนรู้ที่จะปิดกั้นความต้องการของตัวเอง เพราะไม่คาดหวังว่าจะได้รับการตอบสนองที่ดีจากการกลับมาของเจ้าของ
ทั้ง 4 มิตินี้จะช่วยให้เรามองเห็นภาพที่ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ที่ดีกับหมานั้นหมายความว่ายังไง ซึ่งไม่ใช่แค่ว่ารักไม่รัก แต่มีความมั่นค
“ดี” ไม่ได้หมายถึงการที่สุนัข “รัก” เรามากที่สุด แต่หมายถึงการที่สุนัขมีความ “มั่นคง” ทางอารมณ์กับเรา มันคือความสัมพันธ์ที่สุนัขเชื่อมั่นว่าเราคือที่พึ่งพิงที่ปลอดภัยและเป็นฐานที่มั่นคงให้มันกล้าเผชิญโลก ในขณะเดียวกันก็มีความสมดุลระหว่างความใกล้ชิดและความเป็นอิสระ การตระหนักรู้ว่าความสัมพันธ์ของเรากับสุนัขอยู่ในจุดไหนในแต่ละมิติ คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการเยียวยาและสร้างสายใยที่แข็งแกร่งและดีต่อสุขภาพจิตของทั้งคนและสุนัขอย่างแท้จริง