ตามที่สัญญาไว้ว่าอยากจะเขียนเรื่องคู่มือการเลือกซื้อของเล่นหมาไว้ ซึ่งคราวที่แล้วเขียนได้แค่ในส่วนของของเล่นแทะ วันนี้เลยตามมาด้วยของเล่นกลุ่มอื่น ๆ ก็ตามมาได้สักที โดยผมได้แบ่งของเล่นสำหรับหมาไว้ทั้งหมด 5 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 

  1. ของเล่นแบบที่ใส่อาหารได้ (Food Dispenser) 
  2. ของเล่นแทะ (Chew Toy)
  3. ของเล่นที่ไว้เล่นด้วยกัน (Tug Toy & Fetch Toy)
  4. ของเล่นนุ่ม (Plush Toy)
  5. ของเล่นมีเสียง (Squeak Toy)

แต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสีย และการใช้งานที่แตกต่างกัน ของเล่นแต่ละประเภทไม่ได้เหมาะกับหมาทุกตัว ดังนั้นเพื่อให้ง่ายขึ้นกับเจ้าของที่กำลังมองหาของเล่นให้น้องอยู่ผมสรุปคุณสมบัติหลัก ๆ ของแต่ละประเภท หลักการเลือกซื้อ และคำแนะนำในการใช้งานมาไว้ในที่เดียวครับ โดยมีทั้งหมด 5 ประเภทนี้เรียงลำดับตามความแนะนำ

1. ของเล่นใส่อาหาร (Food Dispenser) 

ลักษณะเด่นของของเล่นกลุ่มนี้คือของเล่นที่ใส่อาหารไว้ข้างในได้และต้องใช้ความพยายามในการกินอาหารข้างใน เน้นให้หมาได้ใช้สมองไปกับการพยายามทานอาหารให้ได้ ซึ่งหมาส่วนใหญ่ชอบแน่นอนเวลาที่มีอาหารอยู่ แต่ส่วนใหญ่จะไม่สนใจเวลาอาหารหมด ถ้าเลือกขนาดที่ใหญ่พอที่ใช้ใส่อาหารหมาได้ครบมื้อยิ่งดี ช่วยลดปัญหาหมาเบื่ออาหารได้ดี ของเล่นกลุ่มนี้มี 4 ประเภทย่อยหลัก ๆ คือ

  1. Stuffed Toy: ของเล่นยางที่มีแกนกลางโล่ง ๆ ไว้สำหรับใส่เม็ดอาหาร ออกแบบมาให้หมาต้องใช้ความพยายามเพื่อเอาออกมา สามารถพลิกแพลงใส่อาหารได้หลายชนิด และถ้าหมาเก่งแล้วเราสามารถใช้
  2. Slow Feeder: มีทั้งเป็นผ้า (Snuffle Mat) และยาง (Lick Mats) มักจะมีร่องเล็ก ๆ ไว้ใส่อาหารที่หมาอาจจะต้องใช้จมูกในการหาและพยายามเอาอาหารออกมา
  3. Puzzle Toy: มีความยากหลายระดับ ออกแบบมาเพื่อให้หมาแก้ปัญหาโดยเฉพาะ
  4. DIY: มีหลายบ้านใช้แกนทิชชู่ห่ออาหารหมาให้เขาชำแหละเพื่อทาน หรือมุดหาโดยใช้จมูก นอกจากนั้นก็มีเช่นการเอาผ้าเช็ดตัวม้วนห่ออาหารไว้ให้หมาหาทางเอาออกมา ของเล่นสไตล์นี้สามารถทำเองออกแบบเองได้ สามารถเสิร์ซใน Pinterest ว่า Dog Enrichment เพื่อหาไอเดียได้มาทำเองได้มากมาย

จุดเด่นของของเล่นใส่อาหาร (Food Dispenser)

  • หมาส่วนใหญ่ชอบเพราะมีอาหารอยู่ข้างใน
  • ตอบโจทย์สัญชาตญาณของหมาที่ชอบอาหารเอง
  • ช่วยให้หมาไม่เบื่ออาหารได้ดีมาก
  • เป็นของเล่นที่หมาเล่นได้อย่างสงบ
  • ให้หมาได้ฝึกสมอง
  • สามารถใช้เป็นประจำแทนชามข้าวได้เลย

จุดอ่อนของของเล่นใส่อาหาร (Food Dispenser)

  • ไม่สนุกเวลาที่อาหารหมดแล้ว ควรเก็บหลังอาหารหมด
  • ต้องเลือกความยากที่เหมาะกับหมาเรา ง่ายไปหมาจะเบื่อ ยากไปหมาจะหงุดหงิด

ระดับความสนุก ♥︎♥︎♥︎♥︎♥︎: หมาส่วนใหญ่จะชอบมากเวลาที่มีอาหารอยู่ข้างใน

การเล่นคนเดียว ♥︎♥︎♥︎♥︎♥︎: ส่วนใหญ่จะสามารถปล่อยทิ้งไว้ให้เล่นคนเดียวได้ แต่ในครั้งแรก ๆ ที่เล่นเจ้าของเฝ้าระวังว่าสำหรับหมาเราเมื่ออาหารหมดแล้วเขาพยายามชำแหละของเล่นต่อไหม ถ้าเขาพยายามชำแหละของเล่นประเภทนี้อาจไม่เหมาะจะวางทิ้งไว้นอกสายตา

ระดับการแนะนำ ★★★★

คำแนะนำการใช้งานของเล่นใส่อาหาร (Food Dispenser)

เลือกวัสดุที่ทนต่อการกัด ควรที่จะเหนียวทนต่อแรงกัดหมา และทำออกมาเพื่อสุนัขโดยตรง มองหาชิ้นใหญ่ ๆ ที่ทำจากยางจากแบรนด์ที่ชัวร์เรื่องคุณภาพเพื่อเอามาใช้แทนชามอาหารในทุก ๆ มื้อที่เราให้หมาเรา ถ้าหมากินคล่องแล้วทำให้ยากขึ้นโดยการนอกจากใส่อาหารแล้วเติมน้ำเปล่าลงไปและเอาไปแช่ช่องฟรีซจนแข็งเพื่อเพิ่มความยาก หมาจะได้ใช้สมองและกระตุ้นสัญชาตญาณของการหาอาหารกินเองได้ดี ป้องกันปัญหาหมาเบื่ออาหารได้ดีมาก เวลาที่อาหารหมดแล้วเราสามารถใช้มาเป็นของปาเล่นกับเขาแทนลูกบอลได้ (Fetch) เพื่อให้หมาชอบของเล่นชิ้นนี้มากขึ้น

2. ของเล่นแทะ (Chew Toy)

ลักษณะของเล่นประเภทนี้มักจะมีหน้าตาคล้ายกระดูก ออกแบบมาให้หมาใช้ฟันกรามค่อย ๆ แทะให้มันแหว่งไปเรื่อย ๆ ดังนั้นส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุที่ไม่เป็นพิษต่อทางเดินอาหารหมา และมีใส่กลิ่นอาหารเพื่อชวนให้แทะลงไปด้วย บางอันอาจจะเป็นวัสดุที่ย่อยไม่ได้เพื่อให้หมาถ่ายออกมาได้ 100% เป็นของเล่นที่ฝึกความสงบ และการอยู่ในเดียวได้ดีมาก ๆ หมาที่ติดของเล่นชนิดนี้จะเลี้ยงง่ายและเรียบร้อยเป็นส่วนใหญ่ วัสดุหลัก ๆ ที่พบได้คือ

การเลือกของเล่นแทะ (Chew Toy)

โดยหลัก ๆ แล้วของเล่นแทะมีหลายวัสดุครับ แต่หลัก ๆ แล้วก็มี 7ชนิดที่มีลักษณะข้อดีข้อเสียแตกต่างกันตามนี้เลย

  1. Nylon เช่นส่วนใหญ่จากแบรนด์ Nylabone เป็นวัสดุที่ไม่เป็นพิษ ย่อยไม่ได้ และไม่หลุดออกมาเป็นชิ้นใหญ่ ๆ ทำให้เวลาที่หมากลืนลงไปจะออกมากับอึได้ 100% มีความแข็งหลายระดับ ใช้งานได้นานหลายเดือน ค่อนข้างปลอดภัยแต่ส่วนใหญ่หมาจะไม่ได้ชอบมาก ทำให้ต้องอาศัยการฝึกพอสมควรกว่าหมาจะติดใจ แต่ถ้าติดใจแล้วจะสบายเจ้าของ
  2. ไม้ ไม้ที่พบบ่อยที่เอามาทำของเล่นแทะเช่นไม้มะม่วง ไม้กาแฟ แน่นอนว่าไม่เป็นพิษ และเป็นไฟเบอร์ สามารถออกมากับอึได้ ไม่ขาดง่ายดังนั้นจะไม่มีชิ้นใหญ่ ๆ ลงไปในท้องหมา หมามักจะชอบโดยธรรมชาติไม้เนื้อแข็ง ๆ เช่น ไม้มะม่วงอาจจะแข็งไปสำหรับหมาหลายตัวอาจทำฟันแตกได้ถ้าแรงเยอะ ไม้กาแฟจะแพงหน่อยแต่เหนียวนุ่มกว่า สามารถใช้งานได้นาน แต่เศษไม้ที่เกิดขึ้นระหว่างแทะจะเลอะเทอะบ้านมาก ๆ
  3. ผักแช่ฟรีซ ผักที่หมากินได้และมีน้ำเยอะ ๆ เอามาล้างให้สะอาดและแช่ชองฟรีซให้แข็งก็เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะนอกจากจะถูกกว่าชิ้นส่วนสัตว์แห้งแล้วยังเป็นแหล่งของวิตามินที่ดี ผักที่แนะนำเช่นแตงกว่า และแครอท นอกจากนั้นการแทะของเย็น ๆ จะช่วยบรรเทาความเจ็บฟันของลูกหมาวัยที่ฟันแท้กำลังขึ้นด้วย แต่อาจจะเลอะบ้านหน่อย
  4. ชีสจามรี ทำจากนมของตัวจามรีกลายมาเป็นชีสที่แข็งมาก ต้องอาศัยการเลียให้นุ่มหน่อยแล้วค่อย ๆ แทะ มีรสชาติโดยธรรมชาติและอร่อยหมาชอบแน่นอน ค่อนข้างทน หนึ่งชิ้นใช้ได้หลายเดือน ครั้งแรกที่ให้ควรเฝ้าระวังให้ดีเพราะแข็งมาก ๆ หมาที่แรงกัดเยอะและพยายามแทะโดยไม่เลียก่อนอาจฟันแตกได้ ถ้าลองแล้วหมาเราเลียและแทะเบา ๆ ถือว่าเป็นของเล่นที่ดี
  5. ชิ้นส่วนสัตว์แห้ง เช่น ตัวเดียวอันเดียววัว หูวัว เท้ากระต่าย อาจจะจัดเป็นขนมก็ได้หรือของเล่นก็ได้ เพราะทนระดับนึง หมาชอบแน่นอน แต่ไม่แนะนำให้ใช้เป็นประจำเพราะแพงและหมดเร็วมาก เหมาะจะให้ในกรณีพิเศษเช่นการฝึกอยู่บ้านคนเดียวมากกว่า
  6. กระดูกจริง หมาชอบมาก ๆ โดยเฉพาะกระดูกที่ยังมีไขกระดูกอยู่ เป็นหนึ่งในของที่หมาเห็นว่าล้ำค่าที่สุด แต่ปัญหาคือถ้าเราให้แบบที่ผ่านความร้อนแล้วกระดูกจะเปราะและมีโอกาสแตกเป็นเสี่ยงไปบาดลำไส้หมาซึ่งพบได้บ่อยมาก แต่ถ้าให้แบบดิบต้องระวังความสะอาดให้ดี โดยรวมแล้วไม่แนะนำเพราะใช้ความพยายามจากเจ้าของสูงไปหน่อย นอกจากนั้นคือให้ในบ้านจะเละมาก
  7. Rawhide เป็นวัสดุที่มีหลายเกรดปะปนกัน เลือกซื้อที่ปลอดภัยได้ยาก ส่วนอันที่อันตรายกับหมากลับมีขายเยอะ ด้วยความที่กฏหมายจัดให้อยู่ในหมวดของเล่นหมาแทนที่จะเป็นอาหาร จึงไม่ได้มีการจัดระเบียบและการควมคุมดี ๆ และเป็นของที่ผู้ประกอบการชอบผลิต ด้วยความที่ต้นทุนต่ำเนื่องจากทำจากของเหลือจากการทำเครื่องหนัง

    ของเล่นหมาที่เป็น Rawhide มักมีหน้าตาเหมือนหนังที่เอามาพันกันให้เป็นกระดูก มีทั้งแบบธรรมชาติ และแบบที่ผลิตด้วยกระบวนการใช้สารเคมีรุนแรง มีความเป็นพิษกับหมา 

    นอกจากสารพิษแล้วตัววัสดุมันเองยังขาดเป็นชิ้น ๆ ได้ นั่นหมายถึงว่าเวลาที่หมาฉีกมันออกมาได้เป็นชิ้นแล้วพยายามจะกลืนเข้าไป โอกาสสูงที่มันจะติดคอหมา หรือถ้ากลืนเข้าไปได้ก็จะจบด้วยการอุดตันทางเดินอาหารได้ด้วย Rawhide เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยของทางเดินอาหารอุดตันด้วย

จุดเด่นของของเล่นแทะ (Chew Toy)

  • ให้หมาสนุกด้วยตัวคนเดียวได้ดี
  • ป้องกันปัญหาหมาแทะข้าวของ
  • ถ้าหมาเล่นเป็นสามารถวางทิ้งไว้ได้
  • มีหลายรสชาติ หลายรูปแบบ เจ้าของช็อปสนุก และผลัดเปลี่ยนได้หมาไม่เบื่อ

จุดอ่อนของของเล่นแทะ (Chew Toy)

  • ถ้าไม่ฝึกหมาจะไม่ได้ชอบเท่าของเล่นอื่น
  • ช่วงแรกต้องเฝ้าระวังและหาความแข็งที่เหมาะกับหมาเราให้เจอ
  • มีวัสดุให้เลือกเยอะ แต่วัสดุที่เป็นอันตรายกลับหาซื้อง่ายที่สุด ทำให้ต้องเลือกอย่างระวัง

ระดับความสนุก ♥︎♥︎♥︎♥︎♥︎: โดยพื้นฐานแล้วจะชอบไม่มาก ต้องฝึกถึงจะชอบมากและติดเป็นนิสัยได้

การเล่นคนเดียว ♥︎♥︎♥︎♥︎♥︎: ถ้าเลือกวัสดุดีทดสอบแล้วว่าหมาเล่นได้ และซื้อขนาดใหญ่ที่หมากลืนไม่ได้ สามารถปล่อยทิ้งไว้ได้ระดับหนึ่ง แต่ควรหมั่นเช็คสภาพว่ามีฉีกขาดพอที่หมาจะกลืนเข้าไปหรือไม่

ระดับการแนะนำ ★★★★

คำแนะนำการใช้งานของเล่นแทะ (Chew Toy)

ในการเล่นของเล่นกลุ่มนี้หลักการเลือกมี 3 อย่างคือ

  1. ถ้ากินไม่ได้ ก็ต้องอึออกมาได้หมด เพราะของเล่นกลุ่มนี้ยังไงก็เข้าปากหมาแน่ ๆ ดังนั้นต้องชัวร์ว่าไม่เป็นพิษกับเขาถ้ากินเข้าไป ถ้ากินได้ไปเลยก็ดี (เช่น ชิ้นส่วนสัตว์แห้ง, ผักแช่แข็ง) แต่ถ้าเป็นวัสดุที่กินไม่ได้ก็ต้องออกมากับอึได้หมด (เช่น Nylon หรือไม้แท่ง) และระวังวัสดุที่เป็นพิษแต่พบบ่อยคือ Rawhide 
  2. ไม่แตกเป็นชิ้นเล็ก เราต้องชัวร์ว่าที่ซื้อมานั้นเวลาแทะจะออกมาเป็นเศษเล็ก ๆ ที่กลืนเข้าไปได้แล้วไม่ติดคอ ไม่อุดตัน ถ้าแทะแล้วสามารถขาดออกมาเป็นชิ้น ๆ ได้ถือว่าอันตรายต่อทางเดินอาหาร
  3. ซื้อให้ใหญ่กว่าปากหมา อย่างที่บอกว่ายังไงพวกนี้เข้าปากหมาแน่ ๆ เพื่อให้หมาไม่พยายามจะกลืนเข้าไปทั้งอัน ควรซื้อให้ใหญ่เกินกว่าจะกลืนไว้ก่อนเพื่อให้ไม่พยายาม และถ้าเขาแทะไปเรื่อย ๆ แล้วขนาดเริ่มจะกลืนได้ก็ไม่ต้องเสียดายแล้วทิ้งไปเลยจะดีกว่าครับ

3. ของเล่นที่ไว้เล่นด้วยกัน (Tug Toy & Fetch Toy)

ลูกบอล จานร่อน และเชือกเป็นภาพจำหลัก ๆ เลยเวลาที่เราพูดถึงของเล่นหมา ซึ่งสิ่งสำคัญที่ของเล่นกลุ่มนี้มีเหมือนกันคือมันคือของเล่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้คนกับหมาเล่นด้วยกัน เช่น เล่นขว้างบอล เล่นชักเย่อ และอื่น ๆ นั่นทำให้ของเล่นประเภทนี้คือกลุ่มนี้ของเล่นที่หมาชอบที่สุด เพราะเขาทั้งสนุกไปกับการออกกำลังกาย และได้เล่นกับคนที่เขารักไปในตัว นั่นทำให้จริง ๆ แล้วของเล่นกลุ่มนี้เราอยากจะแนะนำให้ทุกบ้านที่สุดเลย แต่ด้วยคุณสมบัติเดียวกันนี่แหละที่เราอยากให้ทุกบ้านระวัง

ด้วยความที่เป็นของเล่นประเภทที่ออกแบบมาเพื่อให้เล่นด้วยกันกับเจ้าของไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ปลอดภัยนักถ้าไม่มีเจ้าของอยู่ ตัวอย่างเช่นลูกบอลชิ้นที่เล่นสนุกคือขนาดจะพอดีปากหมาเพื่อให้คาบถนัด นั่นทำให้หมาอาจจะเผลอกลืนลงไปได้ หรือของเล่นชักเย่อรูปแบบเชือก ก็สามารถหลุดร่อนออกมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หมาเผลอกินเข้าไปได้

จุดเด่นของของเล่นที่ไว้เล่นด้วยกัน (Tug Toy & Fetch Toy)

  • หมาชอบสุด ๆ
  • เพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างหมากับเจ้าของ
  • เล่นพร้อมฝึกไปในตัวผ่านคำสั่งต่าง ๆ

จุดอ่อนของเล่นที่ไว้เล่นด้วยกัน (Tug Toy & Fetch Toy)

  • เล่นได้ครั้งละไม่นาน (เพราะเจ้าของเหนื่อยก่อน)
  • หมาเล่นคนเดียวไม่ได้เลย

ระดับความสนุก ♥︎♥︎♥︎♥︎♥︎: สนุกมาก และเสริมความสัมพันธ์ด้วย

การเล่นคนเดียว ♥︎♥︎♥︎♥︎♥︎: ไม่ได้ออกแบบมาให้หมาเล่นคนเดียว ควรเก็บทันทีเมื่อเล่นด้วยกันเสร็จ

ระดับการแนะนำ ★★★★☆

คำแนะนำการใช้งานของเล่นที่ไว้เล่นด้วยกัน (Tug Toy & Fetch Toy)

เล่นกับหมาพร้อมกับฝึกไปด้วยเพื่อทั้งความสนุกและทำให้คำสั่งแข็งแรงขึ้น 

ตัวอย่างการแทรกคำสั่ง:

  • เล่นลูกบอล/จานร่อน:
    เรียก”มา”ก่อนเริ่มเล่น ——>  สั่ง “นั่ง” ก่อนจะโยน ——> โยนแล้วสั่ง “ไปคาบมา” ——> กลับมาแล้วสั่ง “ปล่อย”  เล่นวน ๆ ไป ปรับแต่งได้หลากหลาย
  • เล่นชักเย่อ:
    สั่ง “ไม่” ให้เขาไม่รีบคว้าก่อนเริ่มเล่น ——> สั่ง “โอเค” เป็นสัญญาณให้คาบได้ ——> เล่น ——> สั่ง “ปล่อย” และเล่นวน ๆ ไป

ระวังระดับพลังงานหมา หมาชอบเกมส์พวกนี้มากจนหลายตัวอาจจะไม่รู้จักเหนื่อย ระวังเป็นพิเศษโดยเฉพาะลูกหมาควรเล่นครั้งละสั้น ๆ ประมาณ 5 นาที และมีเวลาพักให้หายเหนื่อย ในส่วนของการเลิกเล่นหมาถ้าหมาไม่ยอมเลิก อย่าพยายามแย่งของเล่นออกมาจากเขาโดยเขาไม่ยินยอม ควรเอาขนมที่เขาชอบมาก ๆ เข้าแลกกับของเล่นเพื่อให้เขาไม่เกิดนิสัยหวงของ เก็บของเล่นให้เขาเข้าไม่ถึงทุกครั้งที่เลิกเล่นเพื่อความปลอดภัย

4. ของเล่นนุ่ม (Plush Toy)

Plush Toy หรือตุ๊กตานุ่ม ๆ น่ากอดที่ทั้งเด็กและหมาชอบ เป็นของเล่นที่ช่วยให้หมารู้สึกปลอดภัย อบอุ่น และผ่อนคลายเวลาฝนฟ้าร้องได้เลยโดยเฉพาะสำหรับลูกหมา หมาบางตัวอาจเห็นตุ๊กตาเขาเป็นเพื่อนและมีความผูกพันธ์กับตุ๊กตาได้เหมือนกับมนุษย์เด็ก ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติที่ดีมาก แต่ไม่ใช่หมาทุกตัวจะใช้งานตุ๊กตาได้แบบนั้นครับ

ปัญหาของ Plush Toy หรือตุ๊กตาคือมันจะมีหมาอยู่สองประเภท แบบแรกคือเล่นเบา ๆ เอาไปกอด หนุน เลีย แบบน่าเอ็นดู แต่อีกประเภทคือหมาที่เล่นล่าเหยื่อกับตุ๊กตา โดยเห็นตุ๊กตาพวกนี้เป็นเหยื่อที่เขาจะต้องชำแหละ เขาจะฟัด เหวี่ยง และพยายามควักไส้ตุ๊กตาออกมา ซึ่งบางตัวก็จะกินเข้าไปด้วย

ดังนั้นเจ้าของควรที่จะลองเฝ้าระวังดูก่อนในขั้นแรกครับว่าหมาเราเล่นกับตุ๊กตาแบบไหน สำหรับหมาที่นุ่มนวลกับตุ๊กตาก็ยินดีด้วยครับ หมาคุณได้ไปต่อ แต่ถ้าหมาคุณเป็นสายชำแหละแล้วนั้นของเล่นประเภทนี้ค่อนข้างอันตรายมากแม้จะเล่นอยู่ในสายตา พูดง่าย ๆ คือสายชำแหละอดนะครับ

จุดเด่นของของเล่นนุ่ม (Plush Toy)

  • หมาชอบ
  • เป็นความอบอุ่นให้กับหมาสบายใจ
  • เหมาะกับลูกหมาที่เพิ่งแยกจากคอก
  • หมาที่นุ่มนวลเล่นแล้วน่าเอ็นดูมาก
  • เหมาะกับใส่ไว้ในกรงเพื่อฝึกนอนกรง และเป็นเพื่อนเวลาเราไม่อยู่

จุดอ่อนของของเล่นนุ่ม (Plush Toy)

  • ไม่เหมาะกับหมาทุกประเภท หมาหลายตัวเอาไปเล่นชำแหละ
  • หลายเจ้าใส่ไส้ทำให้อันตายต่อทางเดินอาหารถ้าแตกขึ้นมา

ระดับความสนุก ♥︎♥︎♥︎♥︎♥︎: ช่วยให้หมาอุ่นใจได้ดี ค่อนข้างชอบและผูกพันธ์แต่ไม่ได้ตื่นเต้นมาก

การเล่นคนเดียว ♥︎♥︎♥︎♥︎♥︎: ถ้าเราหมาเล่นแบบชำแหละแน่นอนว่าเล่นคนเดียวไม่ได้เลย แต่ต่อให้หมาเล่นอย่างนุ่มนวลก็มีความเสี่ยงอยู่ดีจากการฉีกขาดโดยธรรมชาติดังนั้นไม่ควรปล่อยให้เล่นคนเดียวนาน ๆ และหมั่นเช็คสภาพของเล่น

ระดับการแนะนำ ★★★

คำแนะนำการใช้งานของเล่นนุ่ม (Plush Toy)

มองหาของตุ๊กตาแบบที่ทำมาเพื่อหมาโดยเฉพาะ เพราะวัสดุจะทนกว่า ถ้ายิ่งดีควรมองหาแบบที่ไม่ยัดไส้มา และไม่มีเสียงเพราะเป็นตัวกระตุ้นให้หมาอยากชำแหละ ซื้อมาครั้งแรกแนะนำให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเพื่อดูว่าหมาเราเล่นแบบไหน เพื่อถ้าหมาเราชำแหละจะได้แยกออกมาก่อนจะกลืนขาดและกลืนเข้าไป

5. ของเล่นมีเสียง (Squeak Toy):

ประเภทสุดท้ายคือกลุ่มของเล่นมีเสียงทั้งแบบที่ทำจากผ้า หรือยาง อาจจะมี plush toy และ interactive toy บางชิ้นที่ทับซ้อนกัน แต่ขอแยกของเล่นที่มีเสียงทั้งหมดออกมาอยู่ในหมวดนี้ทั้งหมดเลย เพราะมีข้อควรระวังและการใช้งานโดยเฉพาะ ไม่ว่าวัสดุจะเป็นผ้า ยาง หรืออื่น ๆ ดังนั้นในหมวดนี้ถ้าของเล่นชิ้นนั้นมีเสียงให้ถือเป็นหมวดนี้ทั้งหมดเลยครับ โดยลักษณะสำคัญที่มีร่วมกันของหมวดนี้คือ การใส่ squeeker หรือไส้ที่มีเสียงไว้ข้างในเพื่อให้เวลาที่หมางับลงมาที่ของเล่นจะมีเสียงดังอี๊ด ๆ ออกมา

การใส่เสียงบีบเข้าไปในของเล่นออกแบบมาเพื่อเลียนแบบเหยื่อตามธรรมชาติของหมา เช่น นก หรือ กระรอกเวลาที่โดนงับ ของเล่นกลุ่มนี้ตอบโจทย์สัญชาตญาณการล่า (Prey drive) ของหมาได้ตรงจุดที่สุด ซึ่งเป็นทั้งข้อดี และข้อเสียของของเล่นประเภทนี้ โดยแน่นอนว่าของเล่นประเภทนี้สนุกมากสำหรับหมาโดยเฉพาะหมาที่มี Prey drive สูง ๆ และต้องการจะงับ คาบ ชำแหละ แต่นั่นทำให้ถ้าปล่อยไว้เล่นคนเดียวหมาจะพยายามควักไส้หรือ squeeker ออกมาเพื่อจำลองการชำแหละเครื่องในเหยื่อ ที่แน่นอนอาจจะติดคอหมาได้ง่าย ๆ และแม้หมาบางตัวจะแค่ชำแหละออกมา แต่การให้เล่นชำแหละแบบนี้บ่อย ๆ จะสร้างนิสัยให้หมาเราชอบชำแหละ และชอบทำลายข้าวของได้ง่ายขึ้นด้วย

จุดเด่นของของเล่นมีเสียง

  • หมาชอบมาก
  • เลียนแบบเหยื่อของหมาได้ดี
  • เด้งแบบคาดเดาทิศทางยากกว่าลูกบอล

จุดอ่อนของของเล่นมีเสียง

  • ถ้าปล่อยให้เล่นเองหมาจะชำแหละ
  • เสริมนิสัยชอบทำลายให้หมา
  • ตัวทำเสียง (Squeeker) ติดคอหมาได้
  • เสียงน่ารำคาญ (สำหรับเจ้าของ)

ระดับความสนุก ♥︎♥︎♥︎♥︎♥︎: สนุกมาก

การเล่นคนเดียว ♥︎♥︎♥︎♥︎♥︎: ไม่ได้ออกแบบมาให้หมาเล่นคนเดียว ควรเก็บทันทีเมื่อเล่นด้วยกันเสร็จ

ระดับการแนะนำ ★★

คำแนะนำการใช้งานของเล่นมีเสียง (Squeak Toy)

ด้วยข้อเสียที่ค่อนข้างใหญ่ของของเล่นชนิดนี้นั่นไม่ได้หมายความว่าเราไม่แนะนำของเล่นมีเสียง แต่ในการใช้งานของเล่นประเภทนี้อย่างปลอดภัยและสนุก ควรมองมันเป็นของเล่นชนิด Interactive หรือของเล่นที่มีไว้เล่นกับคน ใช้งานขว้างปาแทนลูกบอล แทนการปล่อยให้หมาเล่น และชำแหละด้วยตัวคนเดียว การเล่นแบบขว้างปาจะยิ่งจำลองการไปคาบเหยื่อที่มีเสียงร้องและตรงกับสัญชาตญาณของหมาโดยเฉพาะหมาประเภท Retriever ทั้งหลาย ด้วยรูปร่างที่หลายหลาย และมีการเด้งที่คาดเดาไม่ได้ทำให้ของเล่นนี้ขว้างปาได้น่าเบื่อน้อยกว่าลูกบอลธรรมดา ๆ

สรุปการเลือกซื้อของเล่นให้กับหมา

ของเล่นหมานั้นผลิตออกมาหลายรูปแบบแตกต่างกัน และมีการพัฒนาปรับปรุงกันอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้มีของเล่นใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย และทั้งหมดนี้เป็นเพียงการแบ่งกลุ่มของเล่นแบบใหญ่ ๆ ที่พบได้บ่อยเพื่อการเลือกซื้อเท่านั้น นอกเหนือจากนี้แล้วยังมีอีกพอสมควรที่เป็นของเล่นที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการพิเศษของเจ้าหมาแต่ละตัว และมีการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง เช่น ลูกบอลขนาดใหญ่สำหรับหมาสายต้อนทั้งหลาย ของเล่นสำหรับกายภาพ และของเล่นอื่น ๆ ที่เราไม่ได้พูดถึงในที่นี้ด้วยความที่ไม่ได้เหมาะกับหมาโดยทั่วไป 

เรื่องสุดท้ายที่อยากบอกคือหมาเราไม่ได้ต้องมีของเล่นครบทุกประเภทครับ แต่เขาควรมีของเล่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของเขาที่เขาสามารถเล่นได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น เมื่อเรารู้จักหมาเราแล้วสุดท้ายแล้วเขาอาจจะเล่นของเล่นได้ไม่กี่ประเภทอย่างปลอดภัย เราก็สามารถช่วยให้เขาไม่เบื่อด้วยการมีของเล่นประเภทที่เขาเล่นได้ในหลาย ๆ รูปแบบไว้ผลัดเปลี่ยนแทนได้ และหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเจ้าของ และว่าที่เจ้าของที่กำลังช็อปปิ้งกันอยู่นะครับ